forex trading logo

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนพลศึกษา เรื่อง กรีฑา โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นฐานฯ
Written by ดร.ศุภวรรณ วงศ์สร้างทรัพย์   

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนพลศึกษา เรื่อง กรีฑา โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

ผู้วิจัย: นางจันทร์ทิมา  รุ่งเรือง   ครู  อันดับ คศ.3 วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์)

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนพลศึกษา เรื่อง กรีฑา โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม(ปิยแหวนรังสรรค์) ซึ่งสุ่มมาด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น ๓ ขั้นตอน คือ (๑) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนพลศึกษา เรื่อง กรีฑา โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ (๒) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนพลศึกษา เรื่อง กรีฑา โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ (๓) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนพลศึกษา เรื่อง กรีฑา โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โดยผู้วิจัยกำหนดเป้าหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอนพลศึกษา เรื่อง กรีฑา ให้สูงขึ้น ในการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนพลศึกษา เรื่อง กรีฑา ดังกล่าวนี้ ผู้วิจัยกำหนดกลุ่มตัวอย่างเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นฐานเพื่อทราบคุณภาพของรูปแบบการเรียนการสอน การกำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง และการดำเนินการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น คือ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษาของผู้เรียนก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มทดลองที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบวัดและประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ๕ ด้าน และ ๓) การประเมินผลรูปแบบการเรียนการสอนพลศึกษา เรื่อง กรีฑา แนวโดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๒ โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจหลังการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น  วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบความแตกต่างภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่มของค่าเฉลี่ย โดยการหาค่าที (Dependent t-test and Independent t-test) ทดสอบความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ การอภิปรายและสรุปผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนพลศึกษ เรื่องกรีฑา โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นฐาน

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า

๑. การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนพลศึกษ เรื่องกรีฑา โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒  มีองค์ประกอบสำคัญ ๔ ประการ ได้แก่ หลักการของรูปแบบการเรียนการสอน วัตถุประสงค์ของรูปแบบการเรียนการสอน กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล วิเคราะห์ความตรงเชิงเนื้อหาด้วยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง ได้ค่าเท่ากับ ๐.๘๙ นับว่าเป็นรูปแบบที่มีคุณภาพและสามารถนำไปใช้ได้

๒. ผลการทดลองใช้รูปแบบ แสดงว่า ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ที่เข้าร่วมกิจกรรมตามรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ    ที่ระดับ .๐๕ และสูงกว่าผู้เรียนที่เรียนด้วยวิธีการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕


คำสำคัญ : รูปแบบการเรียนการสอนพลศึกษา เรื่อง กรีฑา , ทฤษฎีพหุปัญญา, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษา

 



ภาควิชาพลศึกษาและกีฬา คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ถนนมาลัยแมน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม 73140